สืบภาค 4 ซุ่มจับยาเสพติด ผัววิ่งหนีเข้าป่าเอาตัวรอด ทิ้งเมียสาวอยู่กับยาบ้าเกือบสองแสนเม็ด ซึมรับสารภาพทำตามคำสั่งนายทุนชาวลาว กระจายยาบ้าขายในภาคอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.พัฒณศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4, พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รองผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางสาวศิริลักษณ์ หรือแป้ง จันทร์ยอย อายุ 21 ปี ชาว อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน ญธ 9098 กรุงเทพมหานคร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ในช่วงเวลาสี่ทุ่ม คืนวันที่ 6 มีนาคม 2565 จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่นัดส่งมอบยาบ้าจำนวนมากที่บริเวณเสาไฟฟ้าบนถนนทางเข้าไร่อ้อย ข้างถนนมะลิวัลย์ เส้นทางระหว่าง อ.หนองเรือ ไป อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โดยทางเข้าไร่อ้อยนั้นจะมีหลักกิโลเมตรบอกระยะทางอีก 16 กิโลเมตร ถึง อ.ชุมแพ ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันวางแผนจับกุม
จากนั้นได้ตรวจสอบบริเวณเสาไฟฟ้าบนถนนทางเข้าไร่อ้อย ก็พบกระสอบวางอยู่จำนวน 1 กระสอบ เชื่อว่าเป็นยาบ้า จึงได้วางกำลังซุ่มดูพฤติการณ์โดยรอบ ต่อมามีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน ญธ 9098 กรุงเทพมหานคร ขับมาที่บริเวณเสาไฟฟ้า และชายคนขับรถก็ลงจากรถ พร้อมทั้งพยายามจะยกเอากระสอบดังกล่าวขึ้นรถเก๋ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งกระสอบลงและวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อย ภาพในรถเก๋งจึงเหลือเพียง นางสาวศิริลักษณ์ หรือแป้ง จันทร์ยอย อายุ 21 ปี นั่งอยู่ที่เบาะหน้า และพยายามจะวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไว้ ส่วนกระสอบที่ทิ้งอยู่ข้างรถนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแกะกระสอบเพื่อตรวจสอบ ภายในพบยาบ้าทั้งหมด 34 ก้อน รวมยาบ้าทั้งสิ้น 198,000 เม็ด และพบโทรศัพท์มือถือตกอยู่ในรถจำนวน 3 เครื่อง พร้อมบัตรประชาชนของ นายอาร์ม วงษ์จันทร์หล้า อายุ 33 ปี ชาว อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

น.ส.ศิริลักษณ์ ให้การว่า ร่วมกับนายอาร์ม เดินทางไปรับเอายาบ้าซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษ ในที่เกิดเหตุ เพื่อจะนำยาบ้าทั้งหมดนั้นไปกระจายส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงตามคำสั่งของนายทุนชาว สปป.ลาว ซึ่งเป็นการจำหน่ายยาเสพติดโดยกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้ น.ส.ศิริลักษณ์ ทราบว่าเขาต้องถูกจับ แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกับนายอาร์ม วงษ์จันทร์หล้า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย”
น.ส.ศิริลักษณ์ ให้การรับสารภาพอีกว่า มีนายทุนซึ่งเป็นชาวลาว แจ้งมาว่า ให้ไปรับเอายาบ้าที่บริเวณเสาไฟฟ้าบนถนนทางเข้าไร่อ้อย ข้างถนนมะลิวัลย์ เส้นทางระหว่าง อ.หนองเรือ ไป อ.ชุมแพ แล้วให้นำยาบ้าทั้งหมดไปกระจายส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงตามคำสั่งของนายทุนชาว สปป.ลาว ส่วนชายที่หนีไปคือนายอาร์ม สามีตัวเอง และยอมรับว่านายอาร์มและตนเกี่ยวข้องกับยาบ้าจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุนายอาร์มชวนตนมาเป็นเพื่อน เพื่อมารับเอายาบ้าที่นายทุนชาวลาวต้องการกระจายส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงตามคำสั่งของนายทุน ซึ่งก่อนเดินทางมารับยาบ้านั้นได้ร่วมกันเสพยาบ้าที่บ้าน จากนั้นก็เดินทางมายังจุดนัดรับยาบ้า จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ศิริลักษณ์ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายที่ รพ.ขอนแก่น มีผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเกท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และข้อหาร่วมกับนายอาร์ม วงษ์จันทร์หล้า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.พัฒณศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ 1 คน และสามีที่หลบหนีไปนั้น ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับขบวนการการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ส่วนยาเสพติดนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีอักษร Y-1 อยู่ที่ห่อยาบ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของยาบ้าที่มาจากกลุ่มว้าเหนือ ที่ร่วมกับนายทุนชาวลาว ขนข้ามแม่น้ำโขงมาขายในพื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทย และยาบ้าจำนวนดังกล่าวจะมีราคาขายที่ไม่เท่ากัน ซึ่งหากมีการขนและขายได้รอดจะอยู่ที่ราคาเกือบสิบล้านบาท ซึ่งหลังจากจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้วก็จะนำส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.ชุมแพ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการขอศาลออกหมายจับ นายอาร์ม มาดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน รวมถึงการดำเนินการในการยึดทรัพย์ และขยายผลไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.