“พนิต” อัด “ช่อ” เปิดช่องชุมนุมได้ทุกที่ ถามชุมนุมหน้าบ้านคณะก้าวหน้าได้หรือไม่ สอนมวยคนกรุงต้องการผู้ว่าฯ กทม. ที่มีนโยบายสร้างสรรค์ ไม่เอาความขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.65 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว “Panich Vikitsreth-พนิต วิกิตเศรษฐ์” ระบุว่าเรื่อง “ชุมนุมได้ทุกที่ “หมิ่นเหม่” หรือไม่” โดยระบุว่า “วันก่อนมีประเด็นที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง พูดถึงการแก้ปัญหาการชุมนุมในพื้นที่ กทม.ว่า จะทำอย่างไรไม่ให้สร้างปัญหาให้คนที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม โดย นายชัชชาติ เสนอว่า กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ควรจัดพื้นที่สำหรับการแสดงออกทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อให้คนมาแสดงความคิดเห็นได้ ในขณะที่ กทม. ต้องอำนวยความสะดวกเรื่องการจัดหาเครื่องเสียง รถสุขา มีการประสานงานขออนุญาตใช้พื้นที่ชุมนุมตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่า คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ที่สนับสนุน คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ พร้อมกับบอกว่าการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องเกิดได้ทุกที่”
“ตนในฐานะที่เคยทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ส.กทม.โดยในปี 2553 ยังเป็น กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ เห็นต่างจาก คุณช่อ ครับ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า การชุมนุมต้องเกิดได้ทุกพื้นที่นั้น เพราะแม้การชุมนุมจะเป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเช่นเดียวกัน อย่างประเทศอังกฤษยังมีกฎหมายว่าด้วยเรื่องการชุมนุมในที่สาธารณะโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและไม่กระทบผู้อื่น” นายพนิต ระบุ
นายพนิต ระบุต่อว่า “ขณะที่ประเทศไทยเองก็ไม่ได้ห้ามชุมนุม หรือปิดกั้นการแสดงความเห็นแต่อย่างใด เพียงแต่ขอให้ทำตามกฎหมาย โดยในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในมาตรา 10 ได้เปิดช่องให้ขออนุญาตชุมนุมไว้ โดยระบุว่า “ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง” ซึ่งในกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนครับว่า ชุมนุมที่ไหนได้และไม่ได้ โดยในมาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “การจัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมีหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาท หรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตำหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับหรือพำนัก หรือสถานที่พำนักของพระราชอาคันตุกะ จะกระทำมิได้”
“หากไม่กำหนดหรือจัดโซนไว้ให้ คุณช่อ ลองคิดดูนะครับว่า หากวันหนึ่งอยู่ๆมีใครไม่รู้มาจัดชุมนุมหน้าบ้านคุณช่อโหวกเหวกเสียงดัง ปิดทางเข้า-ออกบ้านจนไม่สามารถเดินทางได้ เราจะยังโอเคอยู่มั้ยครับ? ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องมีกติกา มีเรื่องของการขออนุญาตในการจัดไว้ไงครับ ซึ่งแนวคิดการจัดพื้นที่ชุมนุมให้เป็นสัดส่วนจึงถือว่าดีครับ เพราะมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม หรือกับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องที่จะต้องใช้ชีวิตประจำวัน” นายพนิต ระบุ
นายพนิต ระบุต่อว่า “อย่างไรก็ดีการออกมาคัดค้านนโยบายนี้ของคุณช่อ ผมไม่แน่ใจในเจตนาด้วยว่า ต้องการจะสื่ออะไรที่มากกว่านั้นหรือเปล่า เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 2-3 ปีนี้มา คุณช่อและองคาพยพ แสดงความเห็นสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามโฉบเฉี่ยวไปชุมนุมในสถานที่สำคัญ ที่กฎหมายห้ามเอาไว้หลายครั้ง ไม่ว่าจะสถานที่ราชการหรือเขตพระราชฐาน การออกมาบลัฟนโยบายของ คุณชัชชาติ จึงชวนให้สงสัยว่า กำลังเอาใจคนกลุ่มนี้เพื่อหาเสียงทางอ้อมให้กับ คุณวิโรจน์ หรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมในอดีตของ คุณช่อ กับความคิดที่ต้องชุมนุมได้ทุกที่นั้น มันชวนให้คิดจริงๆครับว่า จะสื่อถึงอะไรและนำไปสู่การตีความหมิ่นเหม่ ที่อาจทำให้คนไทยไม่สบายใจ”
“ผมว่าการแข่งขันครั้งนี้ มาสู้กันด้วยนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ มาดีเบตกันโดยไม่มีนัยยะแอบแฝงเรื่องอื่นดีกว่าครับ เราต้องการผู้ว่าฯ กทม.ที่มาทำงานให้คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ต้องการคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไร ที่พลันแต่จะสร้างความขัดแย้งให้กับคนในสังคม” นายพนิต ระบุทิ้งทาย