นายมงคลกิตต์ กล่าวว่า วันนี้มาเก็บตัวอย่างของน้ำใต้ผิวน้ำที่มีตะกอน ในบริเวณที่คาดว่าแตงโมจะเสียชีวิต ตามข้อสันนิษฐานของกลุ่มคนทั้ง 5 ราย บนสปีดโบ๊ทที่แจ้งพิกัดในจีพีเอส ในช่วงเวลาประมาณ 22.34น.และ 22.40น.ซึ่งเป็นบริเวณใกล้มัสยิด มีความลึกประมาณ 6 เมตร และอีกจุดที่ตนสันนิษฐานว่าเป็นบริเวณประตูระบายน้ำ ซึ่งเป็นน้ำลึกประมาณ 7 เมตร เนื่องจากในร่างกายของแตงโมมีทรายและตะกอนอยู่
ก็จะนำตัวอย่างน้ำในวันนี้ไปตรวจสอบว่ามีความหนาแน่น และความละเอียดของทรายว่าเข้ากันหรือไม่ จากนี้จะนำข้อมูลไปประชุมอีกครั้ง แต่ได้มอบข้อมูลบางส่วนให้ดีเอสไอไปแล้ว ส่วนตัวอย่างน้ำในวันนี้ ได้ประสานกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจสอบ ซึ่งภารกิจในวันนี้จะทำให้พบจุดที่แตงโมเสียชีวิต เพราะตำรวจยังไม่ได้ทดสอบในเรื่องนี้
นายมงคลกิตต์ กล่าวอีกว่า เย็นนี้ก็จะไปคุยกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการความยุติธรรมกับคดีแตงโม จึงต้องตอบคำถามว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร จุดไหน ซึ่งการพบทนายตั้มนั้นก็ถือว่าดี ถือว่าได้กำลังเสริมมาช่วยกันหลายๆ ฝ่ายให้ใกล้ความจริงที่สุด
สำหรับเรื่องบังแจ็ค ที่จะนำผ้าคลุมที่อ้างเป็นของแตงโมนั้นก็ได้คุยกับทนานตั้มจบแล้ว เราได้หลักฐานมาก็ส่งต่อ และเราก็หาหลักฐานส่วนอื่น เพราะมีหลายทีมงานช่วยกัน จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหา ส่วนกรณีทนายเดชา จะรวบรวมหลักฐานฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ในเรื่องคดีนี้นั้น เป็นเรื่องของทั้งคู่ ตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ด้านนายกฤษณะ กล่าวว่า เราทำงานอย่างระมัดระวัง เพราะต้องกรองข้อมูลก่อน ตนได้ประสานงานกับนายมงคลกิตต์ แทบทุกวินาที ตอนนี้มีความคืบหน้าพอสมควร ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายได้เน้นย้ำมาตลอดว่าเราจะยังไม่เชื่อหลักฐานอะไรจนกว่าจะมีการพิสูจน์ 100%