ศบค. เผย ยอดฉีดวัคซีนวันนี้ 125,370,801 โดส รับยอดเข็ม 3 อัตราการฉีดยังต่ำมาก เตรียมเร่งรัดฉีดวัคซีนกลุ่ม 60 ปีขึ้นไปก่อนสงกรานต์ 21-31 มี.ค. นี้ ย้ำ เข็มกระตุ้นลดตายได้ 41 เท่า
วันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยผลการฉีดวัคซีน วันที่ 8 มี.ค. 2565 มีรายละเอียดดังนี้
ผู้เข้ารับวัคซีนรายใหม่ 171,790 โดส แบ่งเป็น
เข็มที่ 1 จำนวน 62,311 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 18,474 ราย
เข็มที่ 3 จำนวน 91,005 ราย
ส่วนยอดการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 – 9 มี.ค. 2565 รวมฉีดสะสมอยู่ที่ 125,370,801 โดส
เข็มที่ 1 สะสมแล้ว 54,101,460 ราย คิดเป็น 77.8% ของประชากร
เข็มที่ 2 สะสมแล้ว 49,915,080 ราย คิดเป็น 71.8% ของประชากร
เข็มที่ 3 สะสมแล้ว 21,354,261 ราย คิดเป็น 30.7% ของประชากร


แพทย์หญิงสุมนี กล่าวยอบรับว่า ยอดการฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ในปัจจุบันยังถือว่าต่ำมาก นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข และที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก แสดงความห่วงใยต่อกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง ที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ อย่างน้อย 70% โดยในวันที่ 21-31 มี.ค. นี้จะจัดให้เป็นช่วงสัปดาห์ของการเร่งรัดการฉีดเข็มกระตุ้น โดยเป้าหมายหลักคือผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป จึงขอความร่วมมือประชาชน และกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทุกจังหวัดทำแผนเชิงรุก ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและฝ่ายปกครองในพื้นที่ สำรวจคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเพื่อมารับวัคซีนโดยเร็ว และคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว ก็ต้องเคร่งครัดมาตรการดูแลตนเองครอบจักรวาล (Universal Prevention)
เนื่องจากการฉีดวัคซีนสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีด และหากฉีด 3 เข็ม สามารถลดการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นสามารถลดการเสียชีวิตได้อย่างมาก จึงขอเชิญชวนผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อที่การกลับบ้านสงกรานต์นี้จะได้สบายใจ
