อัยการฟ้องเเล้ว “เนย” อดีตศิษย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ ฉ้อโกงเงินวัดวชิรธรรมาราม 80 ล้าน ศาลนัดตรวจหลักฐาน 13 มิ.ย.นี้
โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าเมื่อวันที่ 28-29 พ.ย.2564 จำเลยซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทคอยปรนนิบัติรับใช้สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 มีหน้าที่รับมอบฉันทะจากสมเด็จพระวันรัต ให้เบิกถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์ ของสมเด็จพระวันรัต และของวัดวชิรธรรมาราม จ.อยุธยา ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดบวรฯ มีหลายบัญชีซึ่งเป็นเงินของวัดวชิรธรรมาราม สำหรับเก็บเงินเป็นค่าปฎิสังขรณ์วัด มีสมเด็จพระวันรัตฯลงนามเซ็นเบิกถอนได้คนเดียว โดยใช้ชื่อบัญชี “สมเด็จพระวันรัตช่วยน้ำท่วม”
โดยจำเลยไปหลอกลวงสมเด็จพระวันรัตว่าจะต้องไปเบิกเงินในบัญชีสองบัญชี เพื่อซ่อมแซมวัดและจ่ายค่าแรงคนงาน รวมสองครั้งเพื่อใช้ในกิจการของวัด เมื่อได้ลายเซ็นแล้วก็ใบถอนเงินที่มีลายเซ็นพระฯไปกรอกข้อความในช่อง รายการเบิกถอนโดยไม่มีสิทธิ์ ด้วยเจตนาแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบ เป็นการทุจริตใช้เบิกถอนเงินจากธนาคาร 50 ล้านบาท กับ 30 ล้านบาทเศษสองครั้ง รวม 80 ล้านบาทเศษ โดยมีเจตนาจะเอาเงินไปใช้ส่วนตัว
การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงพระวันรัตด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยเจตนาทุจริต ทำให้ได้ทรัพย์สินเงินสด แล้วซื้อแคชเชียร์เช็คบ้าง และโอนเข้าบัญชีของจำเลยเองบ้าง การเบิกถอนการโอนแต่ละครั้งต้องใช้บัตรประชาชนกับสมุดบัญชีเงินฝากของพระวันรัตไปแสดงต่อธนาคาร สร้างความเสียหายแก่วัดวชิรธรรมาราม ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับ แล้วจับจำเลยได้ที่คอนโดมิเนียมพร้อมรถยนต์หรู (แยกดำเนินคดีฟ้องเงิน) กับบัตรประชาชนของพระวันรัตอยู่กับจำเลย
โดยท้ายฟ้องคดีนี้อัยการยังยื่นฟ้องขอให้จำเลยคืนทรัพย์ที่ได้ยักยอกจำนวน 80 ล้านเศษแก่วัดวชิรธรรมาราม โดยภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องจำเลยให้การปฎิเสธ ขอต่อสู้คดีศาลจึงมีคำสั่งประทับรับฟ้องเป็นคดีดำที่อ.1117/65 พร้อมนัดตรวจพยานวันที่ 13 มิ.ย.นี้ โดยให้คู่ความส่งพยานหลักฐานมายังศาลให้อีกฝ่ายตรวจสอบก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวนายอภิรัตน์ จำเลยถูกขังมาตลอดโดยไม่ได้รับการประกันตัว ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ